ชาวญี่ปุ่นได้ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจากการติดต่อกับชาวจีนและเกาหลี

2

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รวมกันเป็นปึกแผ่น สร้างสมวัฒนธรรมลักษณะนิสัยและความเป็นเอกลักษณ์ของตนมาเป็นเวลายาวนานประเทศหนึ่งตามตำนานและหลักฐานทางความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า ชนพื้นเมืองชาวเกาะญี่ปุ่นได้รวมกันเป็นชุมชนใหญ่มีพระเจ้าจักรพรรดิ์ซึ่งสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากเทพเจ้าแห่งแสงสว่างคือ พระอาทิตย์ ขึ้นครองราชสมบัติปกครองประเทศญี่ปุ่น เป็นองค์แรกในราว 20 ปีก่อนพุทธกาล ชนชาวเกาะญี่ปุ่นมีพื้นฐานทางลักษณะนิสัย เป็นคนรักธรรมชาติ สุภาพอ่อนน้อมและรักสันติ ตามประเพณีการปฏิบัติต่อเทพเจ้าต่างๆ ของศาสนาชินโด ซึ่งเป็นศูนย์รวมพิธีการดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น (ชิน-พระเจ้า โต-ทางหรือพิธี) คุณลักษณะเหล่านี้ เมื่อผสมผสานกับวัฒนธรรมของจีนและแนวความคิดตามหลักลัทธิขงจื้อซึ่งเข้ามามีอิทธิพลในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 11 นั้นแล้ว ทำให้ลักษณะนิสัยของชาวญี่ปุ่น เป็นคนรักธรรมชาติ รักหมู่คณะ เคารพบรรพบุรุษ สุภาพ อ่อนน้อม ขยัน อดทนซื่อสัตย์และกล้าหาญ ซึ่งเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดมาถึงคนญี่ปุ่นในปัจจุบัน

นอกจากชาวญี่ปุ่นจะได้ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจากการติดต่อกับชาวจีนและเกาหลี โดยการศึกษาคำสอนของลัทธิขงจื้อแล้วพระสงฆ์ในพุทธศาสนาจากจีนและเกาหลีที่มีความชำนาญในภาษาจีน งานช่าง และงานฝีมือต่างๆ ยังได้เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา ตั้งสำนักสอนภาษาและหลักศาสนาและวิชาการต่างๆ แก่ชาวญี่ปุ่นจนมีอิทธิพลต่อความนึกคิดและปรัชญาชีวิตของชาวญี่ปุ่นทั้งมวล ธรรมนูญฉบับแรกของญี่ปุ่นเป็นกฎหมายที่รวบรวมแนวความคิด หลักการจากศาสนาชินโตขงจื้อและศาสนาพุทธ ว่าด้วยการพลเรือน การทหาร ศาล ศาสนา และการศึกษา ประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ. 1244 จากธรรมนูญฉบับแรกนี้ ทำให้การศึกษาพัฒนาเป็นแบบเป็นแผนขึ้นมา มหาวิทยาลัยแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ได้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1211 ก็ได้รับการฟื้นฟูปรับปรุงระบบและวิชาที่สอนอนุญาตให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยสอนวิชาคัดลายมือ วิชาแพทย์แปลมาจากตำราจีนเน้นวิธีรักษาโรคโดยการฝังเข็ม ดาราศาสตร์ ดนตรีและอ่านตัวอักษรจีน และพระเจ้าจักรพรรดิ์ยังได้กำหนดให้มีโรงเรียนประจำภาคและจังหวัด สอนวิชาเดียวกันกับวิชาที่สอนในมหาวิทยาลัยอีกด้วย การศึกษาในสมัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกคนเข้ารับราชการ จึงเป็นการให้การศึกษาแก่บุตรหลานของขุนนางชั้นสูงเพื่อเตรียมสืบทอดตำแหน่งราชการของตระกูล